สมุนไพรก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถใช้ควบคู่กันไปยาแผนปัจจุบันได้ เพื่อลดผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยาโรครูมาตอยด์ ซึ่งเป็นโรคข้ออักเสบเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาหายได้
1.ฟ้าทะลายโจร
ช่วยต้านการอักเสบ ต้านไวรัส ต้านอนุมูลอิสระ และต้านเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ สามารถรักษาอาการไข้หวัด โรคมะเร็ง หรือแม้แต่ช่วยในการรักษาผู้ติดเชื้อ HIV ได้อีกด้วย แต่ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัดว่าสารตัวได้ที่อยู่ในฟ้าทะลายโจรที่มีคุณสมบัติเช่นนั้น
แต่ในการศึกษาในปี 2009 นั้นก็ทำให้เราได้ทราบกันว่าฟ้าทะลายโจรสามารถลดอาการบวมของข้อต่อและทำให้สามารถเคลื่อนไหวข้อต่อได้ง่ายขึ้น โดยในการวิจัยได้ให้ผู้ป่วยรับประทานฟ้าทะลายโจรวันละ 3 ครั้งติดต่อกัน 14 สัปดาห์ และพบว่าอาการปวดข้อและขยับร่างกายไม่สะดวกอันเนื่องมาจากโรครูมาตอยด์ลดลงได้อย่างน่าอัศจรรย์
มีทั้งใบสดแบบอัดเม็ดและแคปซูลให้เลือกได้ตามสะดวก แต่ก็ต้องระมัดระวังผลข้างเคียงในการใช้ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดหัว อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ท้องเสีย มีอาการแพ้ หรือแม้แต่ลิ้นเปลี่ยนรสอีกด้วย

2.กำยาน
แพทย์อายุรเวทของอินเดียได้นำกำยานมาใช้เพื่อต้านการอักเสบมาตั้งแต่โบราณแล้ว โดยส่วนที่นำมาใช้นั่นก็คือยางจากเปลือกของต้นกำยานนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันมีสารสกัดจากกำยานในรูปแบบของแคปซูลอาหารเสริมหรือจะเป็นครีมทาได้แล้ว

3.สับปะรด
สับปะรดนั้นเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง แถมในแกนสับปะรดยังมีสารโบรมีเลน (Bromelain) มีคุณสมบัติในการช่วยย่อยโปรตีนและต้านการอักเสบได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะถูกนำมาใช้ลดการอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อ

4.พริกป่น
ในพริกป่นมีสารแคปไซซิน (Capsaicin) ซึ่งปัจจุบันสารแคปไซซินนี้ก็ถูกสกัดมาใช้ในรูปแบบของครีมใช้ทาบรรเทาอาการปวด โดยล่าสุดศูนย์การแพทย์ Lagoneแห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ได้ยืนยันว่าครีมที่มาจากสารแคปไซซิน สามารถบรรเทาการปวดจากโรคข้อเข่าเสื่อมรวมทั้งอาการปวดที่เกิดจากเนื้อเยื่อได้อีกด้วย
5.เมล็ดขึ้นฉ่าย
เมล็ดขึ้นฉ่ายนั้นถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคไข้หวัด อาหารไม่ย่อย รวมทั้งโรคไขข้อต่าง ๆ มานานนับพันปีแล้ว นอกจากนี้ยังนำมาใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ซึ่งล่าสุดก็ความเชื่อว่าเมล็ดขึ้นฉ่ายมีสรรพคุณอันทรงประสิทธิภาพในการรักษาอาการโรคไข้ข้ออักเสบ โรคเกาต์ รวมทั้งบรรเทาอาการของโรครูมาตอยด์ลงได้ และยังมีการศึกษาเพิ่มเติมอีกว่ารากของขึ้นฉ่ายนั้นก็มีคุณสมบัติในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและความดันโลหิตลงอีกด้วย
ุ
6.ดอกคาโมมายล์
ดอกคาโมมายล์ใช้ในการรักษาอาการป่วยสารพัด รักษาอาการอักเสบ ช่วยให้นอนหลับสบาย แก๊สในกระเพาะอาหาร หรือแม้แต่โรครูมาตอยด์ เนื่องจากสารสไปโรเอเทอร์ (Spiroether) หนึ่งในยาคลายการหดตัวของกล้ามเนื้อที่มีอยู่ในธรรมชาติ อันมีสรรพคุณในการรักษาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ รับประทานได้ทั้งน้ำมันสกัดและชาดอกคาโมมายล์

7.ขิง
ขิงเป็นสุดยอดสมุนไพรที่ใช้ในการรักษาโรคสารพัดมานับกว่าพันปี ไม่ว่าจะเป็นโรคหวัด คลื่นไส้ ไมเกรน ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ หรือแม้แต่ความดันโลหิตสูง ทั้งนี้ ขิงยังมีคุณสมบัติเด่นในการช่วยลดอาการปวด ต้านการอักเสบและต้านสารอนุมูลอิสระ โรงเรียนแพทย์ในมหาวิทยาลัยไมอามี่ก็ยังได้ค้นพบอีกว่า การรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของขิง วันละ 2 ครั้งติดต่อกัน 3 เดือนยังช่วยให้อาการปวดของผู้ป่วยโรครูมาตอยด์ลดลงและช่วยให้การทำงานของข้อต่อต่าง ๆ ดีขึ้น มีทั้งแบบสด แบบอบแห้ง เป็นผงชงดื่ม หรือจะรับประทานแบบแคปซูล

8.ชาเขียว
ชาเขียวยังมีสรรพคุณทางยาช่วยบำรุงสุขภาพ ทั้งช่วยการทำงานของระบบย่อยอาหารและบำรุงหัวใจ ทั้งนี้การศึกษาจากศูนย์การแพทย์ในมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ก็ยังเปิดเผยให้ทราบอีกว่า ชาเขียวมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ และช่วยป้องการถูกทำลายของข้อต่าง ๆ ที่เกิดจากโรครูมาตอยด์ได้อีกด้วย

9.ขมิ้น
ขมิ้นถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์มาตั้งแต่ 4,000 ปี โดยถูกนำมาใช้รักษาโรคหลากหลายรวมทั้งในเรื่องของระบบย่อยอาหารหรือแม้แต่รักษาความผิดปกติของตับ เป็นต้น ซึ่งจากการวิจัยพบว่า ขมิ้นมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบ และสารเคอร์คูมินก็ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย สามารถรับประทานสด ๆ ผงอบแห้งปรุงกับอาหาร หรือแคปซูลอาหารเสริมก็ได้เช่นกัน

10.โรสแมรี
สมุนไพรจากแถบเมดิเตอร์เรเนียน นำมาใช้ในวงการอาหารและเครื่องสำอางกันมานาน คุณสมบัติช่วยในการบำรุงความจำ ลดอาการปวดของกล้ามเนื้อ และช่วยแก้ปัญหาอาหารไม่ย่อยได้ นอกจากนี้การทดลองในห้องปฏิบัติการยังพบว่าโรสแมรีมีคุณสมบัติในด้านการต้านอนุมูลอิสระได้ มีทั้งแบบเป็นแคปซูลและแบบน้ำมันที่สกัดมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสามารถรับประทานได้เลย แต่ถ้าจะนำโรสแมรีอบแห้งมารับประทาน ศูนย์การแพทย์ในมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ก็เตือนว่าไม่ควรรับประทานเกินวันละ 6 กรัม
ลองนำไปใช้กันดูนะครับ แต่ก็อย่ามัวแต่พึ่งยาสมุนไพรเพียงอย่างเดียว ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้โรครูมาตอยด์กำเริบและใช้วิธีการรักษาหลาย ๆ ด้านร่วมกัน
อีกทางเลือกขอแนะนำ...ดีบูน...DBoon...มีทั้งแคปซูลและแบบผงชงดื่ม
ส่วนประกอบสำคัญ
Salmon Collagen Peptide (คอลลเจนจากปลาทะเล) 250 มก.
Shark Cartilage (กระดูกอ่อนปลาฉลาม) 100 มก.
Pine Bark Extract Powder (สารสกัดจากเปลือกสน) 60 มก.
Ascorbic Acid (แอสคอร์บิค เอซิด) 60 มก.
Turmeric Extract Powder (สารสกัดจากขมิ้น) 30 มก.
Vitamin D3 100 SD/S (วิตามิน ดี3) 2 มก.
..ติดต่อ..เล็ก..คลิ๊กเลย..092 451 5905