ข้อเข่าเสื่อม เกิดจากความเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนที่ข้อเข่า
อาการเข่าเสื่อม
เมื่อต้องเคลื่อนไหว หรือทำกิจกรรมต่างๆ จะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและรู้สึกฝืดที่ข้อเข่า บางครั้งทำให้เคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก รวมไปถึงเมื่อไม่ได้เคลื่อนไหวนาน ๆ ก็อาจทำให้เจ็บปวด รู้สึกฝืดขัดที่ข้อเข้าได้ อาการอื่น ๆ ของเข่าเสื่อม ได้แก่
-มีเสียงลั่นในข้อ
-มีอาการกดเจ็บ
-เข่าอ่อนแรงและสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
-ข้อเข่าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มที่ เสียความยืดหยุ่น มีอาการข้อติดหรือขยับได้ยาก มักจะเกิดขึ้นเวลาเช้าหรือต้องนั่งเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความยากลำบากเวลาเดิน ขึ้นบันได /ลุกจากเก้าอี้
ผู้ที่มีอาการสำคัญของเข่าเสื่อม เช่น มีอาการเจ็บปวด ข้อเข่าฝืด รวมไปถึงอาการที่กล่าวไปข้างต้น หากมีอาการติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและหาทางรักษา เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้อาการมีความรุนเแรงยิ่งขึ้น
สาเหตุของเข่าเสื่อม
กระดูกอ่อนที่ทำหน้าที่ปกป้องส่วนปลายกระดูกข้อต่อเสื่อมลง เข่าเสื่อมมาจากสาเหตุอื่นๆ มีดังนี้
นอกจากนั้น ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องยกของหนักหรือแบกรับน้ำหนักมาก ๆ เป็นเวลาติดต่อกันยาวนาน ก็จะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดเข่าเสื่อมได้มากขึ้น
การรักษาเข่าเสื่อม
การรักษาเข่าเสื่อม จะมุ่งเน้นไปที่การลดความเจ็บปวดและช่วยให้เคลื่อนไหวได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยการรักษาจะอาศัยวิธีต่าง ๆ ร่วมกัน ได้แก่
-ปรับพฤติกรรมในการใช้ชีวิต
-ลดน้ำหนัก ควบคุมอาหารและออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก เพราะเมื่อมีน้ำหนักตัวเกินก็จะทำให้เข่าต้องรับน้ำหนักมากและทำให้พัฒนาเป็นเข่าเสื่อมได้ในที่สุด
-บริหารข้อเข่า บริหารกล้ามเนื้อข้อเข่าให้มีความแข็งแรงอยู่เสมอหรือยืดเหยียดเข่าเป็นประจำ เพื่อให้กล้ามแข็งแรงจนสามารถช่วยพยุงข้อเข่าได้และเมื่อข้อเข่ามีความยืดหยุ่นสูงก็จะช่วยลดความเจ็บปวดได้ดี
-การออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่เพิ่มความตึงเครียดให้กับข้อมากเกินไป เช่น วิ่ง หรือเล่นเวท แนะนำให้ว่ายน้ำ ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ข้อไม่ต้องรับแรงกดมาก นอกจากนั้น สามารถเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วยการเดินเร็วหรือปั่นจักรยาน สัปดาห์ละอย่างน้อย 150 นาที
แนวทางการรักษาด้วยยา
ใช้ยาแก้ปวดหรือยาแก้อักเสบ ผู้ป่วยสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ยาบรรเทาอาการเจ็บปวด เช่น ยาอะเซตามิโนเฟน (Acetaminophen) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) แต่ไม่ควรใช้ยานานเพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง นอกจากนั้น หากใช้ยาดังกล่าวแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาขอใช้ยาตามแพทย์สั่ง
ฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Cortisone Injections) สามารถช่วยลดการอักเสบและความเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แพทย์จะฉีดยาชาบริเวณข้อและฉีดยาเข้าไปที่ข้อของผู้ป่วย ซึ่งผู้ป่วยสามารถรับการฉีดได้ 3-4 ครั้งต่อปีเท่านั้น เพราะหากฉีดมากเกินไปอาจสร้างความเสียหายกับข้อได้อย่างถาวร
ฉีดกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) กรดไฮยาลูโรนิกเป็นส่วนสำคัญของน้ำในข้อต่อ ซึ่งการฉีดกรดไฮยาลูโรนิกเข้าไปที่เข่าจะช่วยเพิ่มความหล่อลื่นให้กับข้อเข่า
การรักษาแพทย์ทางเลือก
1. การฝังเข็ม (Acupuncture) เป็นวิธีรักษาแบบธรรมชาติตามศาสตร์แพทย์แผนจีน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความสมดุลให้มวลกระดูกและกระตุ้นการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงที่ข้อ โดยระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาจะแตกต่างกันไปแต่ละบุคคลการกายภาพบำบัด เป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้วิธีทำให้กล้ามเนื้อรอบข้อเข่ามีความแข็งแรงและเรียนรู้วิธีเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับข้อต่อจากนักกายภาพบำบัด ซึ่งวิธีเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการที่ดีขึ้น ปวดน้อยลงและขยับเคลื่อนไหวได้มากขึ้น
5. กิจกรรมบำบัด ผู้ป่วยจะได้เรียนรู้วิธีใช้ชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม เช่น การทำงานบ้านหรือการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันให้มีความเจ็บปวดน้อยที่สุด
การผ่าตัด
สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและการรักษาอื่น ๆ ไม่เป็นผล การผ่าตัดก็จะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่แพทย์จะใช้ในการรักษา โดยจะมี 3 รูปแบบ ได้แก่
-การผ่าตัดเพื่อให้ผิวข้อเข้ามาชิดกัน (Arthrodesis)
-ศัลยกรรมเปลี่ยนข้อเข่า (Arthroplasty)
-การตัดเปลี่ยนแนวกระดูก (Osteotomy)
วิธีการผ่าตัดขึ้นกับความเหมาะสมในแต่ละบุคคล โดยมีการปรึกษาร่วมกันทั้งประโยชน์และภาวะแทรกซ้อนก่อนการผ่าตัด
การป้องกันเข่าเสื่อม
การป้องกันเข่าเสื่อมไม่ให้ทรุดลงหรือกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากนัก สามารถทำได้ด้วยการดูแลรักษาสุขภาพ
-การรับประทานอาหาร
-การออกกำลังกาย
-การควบคุมน้ำหนัก
-ผู้ป่วยเข่าเสื่อมที่กำลังรักษาด้วยการรับประทานยาตามแพทย์สั่ง แม้อาการจะดีขึ้นแล้ว ก็ควรที่จะรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น ผู้ป่วยยังสามารถดูแลตัวเองได้ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น
-ประคบร้อน ประคบเย็น เพราะความร้อนและความเย็นจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้ โดยความร้อนจะช่วยบรรเทาข้อฝืด ส่วนความเย็นจะช่วยลดการหดเกร็งและความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ
-ใช้ที่รัดเข่า ผู้ป่วยสามารถสอบถามวิธีที่ถูกต้องในการใช้เทปรัดเข่าจากแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด จะทำให้ได้รู้ว่าควรพันที่ตำแหน่งใดจึงจะเหมาะกับอาการของตนที่สุด
-ใช้ครีมหรือเจลบรรเทาปวด ครีมหรือเจลบรรเทาปวดที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป สามารถช่วยบรรเทาปวดจากเข่าเสื่อมได้ชั่วคราว
Cr" ขอบคุณข้อมูลจาก นพ.ณฐพล ลิตติรานนท์
เข่าเสื่อมเป็นโรคที่ไม่สามารถป้องกันได้ แต่สามารถชลอเวลาได้ และไม่สามารถรักษาด้วยยา (ได้แต่บรรเทาอาการและต้องทานหรือฉีดยาอย่างต่อเนื่อง) ให้หายขาดได้
ขอแนะนำอีกทางเลือกหนึ่งผู้ที่ต้องการทานอาหารเสริม....ดีบูน..สกัดจากธรรมชาติ มีส่วนประกอบดังนี้
ยินดีให้คำแนะนำ..ปรึกษาเพิ่มเติม...เล็ก ชูชีพ.. 092 451 5905..คลิ๊กเลย
หน้าที่เข้าชม | 291,673 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 253,709 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 21 ส.ค. 2568 |